เมื่อแม่ค้าออนไลน์ที่ขายได้มีแค่เบอร์ใหญ่ๆ และต้องแลกมาด้วยค่าธรรมเนียมมหาโหด เจนนี่ไลฟสด200ล้าน

เจนนี่ไลฟสด200ล้าน

คนตัวเล็กๆ จะอยู่อย่างไรในปี 2026

ปี 2026 อาจกลายเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ของวงการอีคอมเมิร์ซไทยและทั่วโลก เพราะแนวโน้มที่เห็นชัดเจนคือ ตลาดกำลังถูกผูกขาดโดยผู้เล่นรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติ, บริษัทโฆษณาดิจิทัล, หรือแม้แต่ผู้ค้ารายใหญ่ที่มีทุนหนาและระบบหลังบ้านสุดแข็งแรง

🌍 ภาพรวมที่เปลี่ยนไป

จากเดิมที่แม่ค้าออนไลน์สามารถเปิดเพจ Facebook หรือขายของผ่าน Line OA ได้เองแบบง่ายๆ วันนี้สิ่งเหล่านั้นแทบไม่พออีกต่อไป

  • อัลกอริทึมของโซเชียลมีเดีย เน้นให้เห็นโพสต์จากผู้ลงโฆษณามากขึ้น
  • ค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น ค่าธรรมเนียมต่อออร์เดอร์, ค่าคอมมิชชัน, ค่าขนส่ง, ค่าชำระเงิน ฯลฯ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • และที่สำคัญที่สุดคือ “การแข่งขันกับรายใหญ่” ที่มีทีมมาร์เก็ตติ้งครบเครื่อง และงบยิงแอดที่คนตัวเล็กแทบไม่อาจสู้ได้

ผลลัพธ์คือ แม่ค้ารายย่อยจำนวนมาก เริ่มขายได้น้อยลง แม้จะทำทุกอย่างถูกต้อง


💸 ค่าธรรมเนียมมหาโหด: ดาบสองคมของโลกดิจิทัล

ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “ต้นทุนธุรกิจ” อีกต่อไป แต่มันกลายเป็น อุปสรรคในการเข้าถึงตลาด
ตัวอย่างเช่น:

  • ขายของผ่านแพลตฟอร์ม A ต้องเสียคอมมิชชัน 15%
  • ระบบชำระเงินหักเพิ่มอีก 3%
  • ค่าส่งถูกแต่บังคับร่วมโปร ลดกำไรลงอีก

สุดท้ายแล้ว กำไรแทบไม่เหลือ แม้ยอดขายจะดูดีในตัวเลขก็ตาม

ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นรายใหญ่กลับ “ได้ส่วนลดพิเศษ” หรือ “ได้พื้นที่โปรโมต” ที่รายย่อยไม่มีทางเข้าถึงได้เลย


🤔 แล้วคนตัวเล็กจะอยู่ยังไง?

แม้สถานการณ์ดูไม่สวย แต่ “คนตัวเล็ก” ยังมีทางรอด หากเปลี่ยนวิธีคิดและกลยุทธ์บางอย่าง

1. สร้างแบรนด์แทนการขายของ

อย่าขายแค่สินค้า แต่ขาย “ตัวตน” และ “เรื่องราว”
เพราะเมื่อผู้บริโภคจำแบรนด์ได้ เขาจะตามไปซื้อจากคุณ ไม่ว่าจะอยู่บนแพลตฟอร์มไหนก็ตาม

2. รวมกลุ่มกันแทนการแข่งกัน

แม่ค้ารายย่อยจำนวนมากสามารถรวมตัวกันเป็น “คอมมูนิตี้” หรือ “สมาคมขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม” เช่น กลุ่มคนขายของทำมือ, กลุ่มเกษตรอินทรีย์, กลุ่มสินค้าท้องถิ่น
เมื่อรวมกันได้ ก็สามารถต่อรองกับแพลตฟอร์มหรือเจรจาเรื่องค่าธรรมเนียมได้ดีขึ้น

3. หันกลับมาสร้างฐานลูกค้าของตัวเอง

ใช้ช่องทางของตัวเองมากขึ้น เช่น

  • เว็บไซต์ส่วนตัว (WordPress, Shopify, หรือ WooCommerce)
  • ระบบเก็บข้อมูลลูกค้า (CRM / Email Marketing)
  • สร้าง Loyalty Program แบบง่ายๆ

แม้จะขายน้อยกว่าในแพลตฟอร์มใหญ่ แต่ “กำไรต่อออร์เดอร์” จะมากกว่า และเป็นฐานลูกค้าที่คุณควบคุมได้เอง

4. ใช้ AI และระบบอัตโนมัติมาช่วย

ปี 2026 คือยุคที่เครื่องมือ AI ราคาถูกลงมาก เช่น

  • AI ช่วยสร้างคอนเทนต์
  • ระบบตอบแชทอัตโนมัติ
  • ระบบแนะนำสินค้าหรือวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้คนตัวเล็ก “ดูใหญ่ขึ้น” โดยไม่ต้องจ้างทีมงานเยอะ


🔮 บทสรุป: โลกไม่ยุติธรรม แต่ยังมีที่ยืนสำหรับคนที่ “ปรับตัวได้”

โลกออนไลน์อาจไม่เปิดกว้างเท่าเดิม และรายใหญ่ดูเหมือนจะกินรวบทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่มีคือ “ความเข้าใจลูกค้าระดับชุมชน”

แม่ค้ารายย่อยยังคงมีพลังในการเชื่อมโยงกับลูกค้าด้วยความจริงใจ ความสัมพันธ์ และความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่อัลกอริทึมหรือทุนใหญ่ไม่สามารถลอกเลียนได้ทั้งหมด

ปี 2026 จะเป็นปีแห่งการ “อยู่รอดด้วยความแตกต่าง”
ไม่ใช่ปีของคนที่ใหญ่ที่สุด — แต่เป็นปีของคนที่ “เข้าใจลูกค้าที่สุด”