ตลาดคริปโตในแคนาดาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง แต่ความไม่ชัดเจนทางกฎหมายกำลังทำให้ประเทศเสี่ยงตามหลังเพื่อนบ้าน

🇨🇦 สถานการณ์กฎระเบียบในแคนาดา
แม้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเทคโนโลยีและการเงินพัฒนาแล้ว แต่แคนาดากลับถูกมองว่า “ตามไม่ทัน” ในเรื่องนโยบายเกี่ยวกับสแตนด์บาย (Stablecoin) เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

📉 CSA จัดประเภทสแตนด์บายใหม่
หลังจากเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX ในปี 2022 หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์แคนาดา (CSA) ได้ออกแนวทางควบคุม โดยจัดประเภทสแตนด์บายเป็น “หลักทรัพย์หรืออนุพันธ์” ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนให้กับผู้ออกเหรียญและบริษัทสตาร์ตอัป

📢 เสียงเรียกร้องจากวงการอุตสาหกรรม
Morva Rohani จาก Canadian Web3 Council ระบุว่า การกำกับดูแลในปัจจุบันทำให้เกิดระบบระเบียบที่ “กระจัดกระจาย” และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานโลก

Tanim Rasul จาก NDAX เสนอแนะว่า แคนาดาควรปรับใช้แนวทางแบบ EU’s MiCA ที่กำหนดให้สแตนด์บายเป็นเครื่องมือชำระเงิน ไม่ใช่หลักทรัพย์ เพื่อดึงดูดการลงทุนและพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัล

💸 เสี่ยงกระทบ CAD
Som Seif จาก Purpose Financial ชี้ว่า หากไม่มีสแตนด์บายที่อิงกับ CAD ประชาชนอาจหันไปใช้สกุลเงินดิจิทัลอิง USD แทน ซึ่งอาจลดบทบาทของสกุลเงินประจำชาติในระยะยาว

🕒 ระบบ P2P ยังไม่ตอบโจทย์
Lucas Matheson จาก Coinbase Canada กล่าวว่า กระบวนการโอนเงินระหว่างบุคคลในแคนาดายังคงมีค่าธรรมเนียมสูงและใช้เวลานาน การนำสแตนด์บายมาใช้สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

🔐 ความเชื่อมั่นยังต่ำ
แม้เทคโนโลยีจะก้าวไกล แต่การยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในแคนาตายังต่ำ เนื่องจากประชาชนจำนวนมากยังไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยเมื่อเทียบกับวิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิม เช่น เงินสดหรือบัตรเครดิต

🏛️ อนาคตขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล
แม้ว่าอดีตนายธนาคารกลาง Mark Carney จะเคยแสดงความคิดเห็นที่ไม่เอื้อต่อคริปโตโดยรวม แต่เขายังคงเห็นศักยภาพของสแตนด์บายหากมีมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสม

Kohani คาดการณ์ว่า หากพรรคเสรีนิยมยังคงครองอำนาจ อาจมีการพัฒนากฎหมายเฉพาะสำหรับสแตนด์บาย เพื่อปรับปรุงระบบชำระเงินและรักษาบทบาทของ CAD ในเศรษฐกิจดิจิทัล

Coin101 #ลงทุน #ความเสี่ยง #SEC #Stablecoin #CryptoCanada