การเปลี่ยนแปลงสำคัญกำลังเกิดขึ้นในวงการกำกับดูแลคริปโต หลังจากพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งมุ่งลดอิทธิพลของบริษัทคริปโตขนาดใหญ่และส่งเสริมการมีส่วนร่วมที่กว้างขวางขึ้นในตลาด
การเปลี่ยนแปลงสำคัญในร่างกฎหมาย
📝 ร่าง “Digital Asset Market Structure Discussion Draft” ฉบับล่าสุดกำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่เข้มงวดขึ้นสำหรับสมาชิกในโครงการคริปโต โดยบุคคลที่ถือครองโทเค็นมากกว่า 1% ของปริมาณรวมในโครงการจะต้องรายงานการถือครอง ลดลงจากเกณฑ์เดิมที่ 5% ตามกฎหมาย FIT21
การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและลดบทบาทของผู้เล่นรายใหญ่ในวงการคริปโต จัสติน สเล็ตเชอร์ รองประธานฝ่ายกิจการกฎระเบียบของ Paradigm ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการทำให้นิเวศคริปโตเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
กรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
🏛️ ร่างกฎหมายนี้กำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจนขึ้นสำหรับโปรโตคอลการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนเป็นโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล หากพวกเขามอบความสามารถให้ผู้ใช้งานดำเนินการธุรกรรมในลักษณะที่ควบคุมตนเองได้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ยังคงมีอำนาจกำกับดูแลเครือข่ายคริปโตจนกว่าจะบรรลุการกระจายศูนย์อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังแยกสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิม โดยจัดประเภทให้เป็น “สินทรัพย์ภายใต้สัญญาการลงทุน”
ผลกระทบและความเป็นไปได้ในอุตสาหกรรม
🚀 กฎหมายที่เสนอให้แนวทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับบริษัทคริปโตในการระดมทุนภายใต้การกำกับดูแลของ SEC และกำหนดกระบวนการที่ตรงไปตรงมาสำหรับการจดทะเบียนสินทรัพย์ดิจิทัลกับคณะกรรมการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC)
สมาชิกคณะกรรมการสภาเน้นว่า กรอบการทำงานนี้มอบโอกาสพิเศษในการผลักดันนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของสหรัฐฯ และเสริมสร้างตำแหน่งของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินชั้นนำในเวทีโลก
ความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า
⚠️ แม้กฎหมายนี้จะมีศักยภาพในการสร้างประโยชน์ แต่ยังเผชิญกับแรงต้านจากฝ่ายนิติบัญญัติพรรคเดโมแครต ตัวอย่างเช่น ตัวแทนแมกซีน วอเทอร์ส มีแผนที่จะขัดขวางการจัดงานหารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่นำโดยพรรครีพับลิกัน ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายทางการเมืองในการผลักดันการกำกับดูแลคริปโตอย่างครอบคลุม
