สงครามในตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อถึง 12 วัน กำลังจะจบลงอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจาะจงออกมาประกาศความสำเร็จในการเจรจาให้อิสราเอลและอิหร่านยุติการเผชิญหน้าภายใน 24 ชั่วโมง
ข่าวใหญ่นี้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคริปโตที่พุ่งทะยานกลับมาได้อย่างน่าประหลาดใจ
📈 การพลิกผันของตลาดคริปโต
ราคาบิทคอยน์ทะลุ $105,000 อีเธอเรียมและ XRP ก็ปรับตัวเพิ่มตามกันทั้งกระดาน โดยเฉพาะเหรียญ Altcoins ที่แทบทุกเหรียญเขียวฉ่ำ สื่อถึงความเชื่อมั่นที่กลับมาของนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
🌍 ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
ในอดีต ตลาดคริปโตมักผันผวนเมื่อเกิดความไม่สงบในระดับโลก แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย มูลค่าสินทรัพย์มักฟื้นตัวได้รวดเร็ว บิทคอยน์เองก็แสดงแนวโน้มตอบสนองดีต่อสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงการขยายตัวของปริมาณเงินในระบบโลก
🏦 เฟดปรับนโยบายกำกับดูแลคริปโต
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกกฎ “ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง” ซึ่งเคยเป็นกำแพงระหว่างธนาคารแบบดั้งเดิมกับบริษัทด้านคริปโต การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเปิดประตูให้ภาคคริปโตเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสองโลกการเงิน
💎 Bitcoin ในฐานะทองคำดิจิทัล
Bitcoin ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามสงคราม ด้วยคุณสมบัติที่ไม่สามารถควบคุมโดยรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง และไม่มีใครสามารถพิมพ์เพิ่มได้ ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจในฐานะเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อและการเมืองที่ไม่แน่นอน
🚀 Altcoins โดดเด่นในตลาดฟื้นตัว
แม้บิทคอยน์จะเป็นดาวเด่น แต่ Altcoins ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย เช่น SUI Ecosystem ที่เติบโตจากการร่วมมือกับแบรนด์ใหญ่อย่าง Delorean Motor Company และ Vechain (VET) ที่เห็นจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
💰 แผนกองทุนเฮดจ์ฟันด์เตรียมซื้อ BNB
มีรายงานว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์แห่งหนึ่งเตรียมระดมทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อโทเค็น Binance (BNB) ผ่านบริษัทจดทะเบียนบน NASDAQ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวในตลาด DeFi
⚠️ ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน
แม้ตลาดจะฟื้นตัวอย่างแรง แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนทางการเมือง การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ยังเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าเดิม